1279 จำนวนผู้เข้าชม |
ทุกคนคงรู้ดีว่าสภาพอากาศเมืองไทยมันร้อนแสนสาหัสมากขนาดไหน หากคุณต้องขับรถยนต์โดยปราศจากแอร์ที่ให้ความเย็นฉ่ำหัวใจคงเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดมากทีเดียว ดังนั้นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีตรวจเช็คแอร์รถยนต์เบื้องต้นจะช่วยให้สังเกตเห็นความผิดปกติของระบบทำความเย็นในรถพร้อมหาวิธีแก้ไขอย่างเร่งด่วนมากที่สุด เพื่อทุกเส้นทางเมื่อขับออกไปแล้วเย็นสบาย ไม่ร้อนตัวร้อนใจ เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
วิธีแรกเป็นพื้นฐานง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้อย่างแน่นอน นั่นคือการตรวจเช็คปริมาณน้ำยาแอร์ แค่เปิดฝากระโปรงหน้ารถแล้วสังเกตบริเวณช่องน้ำยาแอร์ซึ่งปกติจะอยู่ตรงแผงระบายความร้อน หากมองไปแล้วเห็นฟองอากาศขึ้นมานั่นบ่งบอกว่าปริมาณน้ำยาแอร์ของคุณเริ่มอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ต้องรีบหาน้ำยาแอร์รถมาเติมโดยเร็วที่สุด เพราะน้ำยาแอร์หากอยู่ในปริมาณปกติจะต้องสังเกตเห็นสีใส หรืออาจเกิดฟองอากาศได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้ควรเช็คน้ำยาแอร์ทุก ๆ 2 ปี
ในการตรวจเช็คแอร์รถยนต์ปัญหาที่มักทำให้แอร์ไม่เย็นนั่นคือเกิดรอยรั่วบริเวณจุดใดจุดหนึ่ง ต้องเข้าใจก่อนว่าโดยทั่วไประบบแอร์รถยนต์จะเป็นระบบปิดนั่นหมายถึงไม่ควรเกิดรอยรั่วใด ๆ เด็ดขาด ยกเว้นกรณีที่อุปกรณ์หรืออะไหล่บริเวณนั้นเสื่อมสภาพลง วิธีสังเกตให้ดูจากน้ำมันหล่อลื่นตรงคอมเพรสเซอร์แอร์หากเกิดคราบติดเป็นรอยเหมือนน้ำซึมก็มีความเป็นไปได้สูงมาก หรือในกรณีไม่ใช่อะไหล่โลหะผุพังอาจเกิดจากแหวนโอริง ท่อยางเสื่อมตามอายุการใช้งานได้เช่นกัน อีกวิธีคือหากสังเกตเห็นรอยน้ำปนน้ำมันหยดลงบนพื้นแสดงว่าตรงรังผึ้งแอร์หรือตู้แอร์อาจมีรอยรั่ว ต้องรีบหาช่างแก้ด่วน
นี่คืออีกเหตุผลที่มักทำให้แอร์รถยนต์เย็นน้อยลง จึงเป็นอีกชิ้นส่วนสำคัญที่ต้องคอยตรวจเช็คอยู่ตลอดด้วยหน้าที่หลักคือการกรองฝุ่น สิ่งสกปรก เศษผง ขยะต่าง ๆ ไม่ให้เข้ามาในระบบแอร์และปล่อยสู่ห้องโดยสารจึงเป็นเรื่องปกติที่อาจมีการติดขัด เสื่อมสภาพ หรือชำรุดได้ หากรู้สึกแอร์ไม่เย็นหรือมีกลิ่นแปลก ๆ เมื่อเปิดแอร์ก็สันนิษฐานข้อนี้ได้เช่นกัน แนะนำว่าให้เป่าฝุ่นเดือนละ 1-2 ครั้ง หรือเปลี่ยนกรองแอร์ใหม่ทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร
ต้องเช็คว่าพัดลมระบายความร้อนหน้าแผงคอยล์ร้อนยังทำงานได้ตามปกติหรือไม่ เพราะถ้าไม่ทำงานย่อมทำให้ระบบแอร์ไม่สามารถระบายความร้อนได้ทัน ระดับอุณหภูมิของน้ำยาแอร์ที่ส่งเข้าไปจึงสูงขึ้น แอร์ที่ออกมาจึงไม่ค่อยเย็น วิธีสังเกตคือขณะรถกำลังเคลื่อนตัวแอร์ยังคงทำงานได้ดีตามปกติเนื่องจากลมที่เข้ามายังห้องเครื่องยังช่วยพัดระบายความร้อนอยู่ แต่เมื่อรถจอดนิ่งแอร์จะเย็นน้อยลงเพราะพัดลมระบายความร้อนไม่ทัน หรืออีกเทคนิคการตรวจเช็คแอร์รถยนต์จากปัญหานี้คือเปิดฝากระโปรง สตาร์ทรถ แล้วเปิดแอร์ไว้ จากนั้นดูการทำงานของพัดลมหน้าแผงคอยล์ร้อน ถ้ามีเสียงดัง หมุนช้า หรือไม่ทำงาน ต้องรีบให้ช่างซ่อมทันที
จริง ๆ แล้วการใช้งานรถยนต์ไม่ต้องรอให้รถมีปัญหาแล้วค่อยเข้าศูนย์ เพราะคุณสามารถนำรถเข้าเช็คระยะตามรอบที่กำหนดได้ หรือกรณีมีข้อสงสัยความผิดปกติเกี่ยวกับความเย็นในห้องโดยสารก็สามารถแวะให้ช่างช่วยตรวจสอบเบื้องต้นเพื่อจะลดความรุนแรงจากหนักให้เบาลง ซึ่งสามารถเข้ามาตรวจได้ที่ Pit&Go ศูนย์บริการรถยนต์ ให้บริการโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ
เมื่อเข้าใจวิธีและเทคนิคในการตรวจเช็กแอร์รถยนต์ตามระบบต่าง ๆ ไปแล้ว เชื่อว่าจะช่วยให้ทุกคนสังเกตความผิดปกติพร้อมหาแนวทางแก้ไขกันได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม หากไม่มั่นใจมองหาศูนย์หรือร้านซ่อมที่เชี่ยวชาญจะดีที่สุด ที่ Pit&Go ให้บริการซ่อมแอร์รถยนต์ ตรวจเช็คระบบแอร์รถยนต์ ซ่อมแอร์ BMW ซ่อมแอร์ BENZ และรับซ่อมแอร์รถยนต์รุ่นอื่นๆทุกรุ่น