ทำไมถึงต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง

40 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ทำไมต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่องมีหน้าที่ลดแรงเสียดทานระหว่างชิ้นส่วนโลหะในเครื่องยนต์ ทำให้การทำงานราบรื่นและลดการสึกหรอ ทั้งยังช่วยดูดซับและกระจายความร้อน เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไป รวมถึงการกำจัดเขม่าและป้องกันสนิม น้ำมันเครื่องจึงช่วยทำให้รถยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่าน้ำมันเครื่องยนต์มีกี่ประเภท และทำไมต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่องยนต์คืออะไร

น้ำมันเครื่องหรือน้ำมันหล่อลื่น มีส่วนประกอบสำคัญ 2 ส่วน คือ น้ำมันพื้นฐานและสารเพิ่มคุณภาพ มีหน้าที่ลดแรงเสียดทานระหว่างวัตถุที่เสียดสีกัน ได้มาจากการกลั่นน้ำมันดิบ มีช่วงจุดเดือดระหว่าง 380-500 องศาเซลเซียส และเติมสารเพิ่มคุณภาพต่าง ๆ ในปริมาณเล็กน้อยเพื่อปรับปรุงคุณสมบัติให้เหมาะสมสำหรับใช้งานหล่อลื่น มี 3 ประเภท ได้แก่

  1. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (Full Synthetic) : เป็นน้ำมันซึ่งเกิดจากการสังเคราะห์ทางเคมีในห้องแล็บอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้มีคุณสมบัติพิเศษกว่าน้ำมันทั่วไป มีสิ่งเจือปนน้อย น้ำมันจะไม่สลายตัวเร็ว และปกป้องเครื่องยนต์ได้นาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์
  2. น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) : ส่วนผสมของน้ำมันสังเคราะห์และน้ำมันดิบ ซึ่งอัตราส่วนการผสมขึ้นอยู่กับผู้ผลิต
  3. น้ำมันเครื่องทั่วไป : ได้จากการกลั่นจากน้ำมันดิบธรรมชาติ มีราคาถูกกว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ เหมาะกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถบรรทุกขนาดเบาที่ใช้เชื้อเพลิงเบนซิน

ทำไมการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องถึงสำคัญ

น้ำมันเครื่องช่วยป้องกันการสึกหรอ ลดแรงเสียดทานและยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องจึงมีความสำคัญต่อเครื่องยนต์ดังนี้

  1. ขจัดเศษสิ่งสกปรก : น้ำมันที่สะอาดมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสะอาดของชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ทำให้ชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ได้รับการหล่อลื่นอย่างเหมาะสม ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการสึกหรอมากเกินไป
  2. ระบายความร้อน : น้ำมันเครื่องใหม่จะช่วยระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความร้อนในเครื่องยนต์เกิดจากการเคลื่อนไหวของชิ้นส่วนต่าง ๆ และสร้างแรงเสียดทาน น้ำมันเครื่องจะช่วยลดแรงเสียดทานเพื่อไม่ให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไป
  3. ป้องกันการกัดกร่อน : น้ำมันเครื่องใหม่จะมีการเติมสารปกป้องชิ้นส่วนภายในจากสนิมและการกัดกร่อน ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้
  4. ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง : การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องอย่างถูกต้องเหมาะสม จะช่วยลดภาระของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากขึ้น

สัญญาณที่บ่งบอกว่าควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง

การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องจะถูกกำหนดโดยผู้ผลิต ซึ่งมักจะกำหนดตามระยะเวลาหรือระยะทาง แต่ถ้าพบสัญญาณผิดปกติ เช่น หน้าปัดรถยนต์ปรากฏไฟเตือนน้ำมันเครื่อง เครื่องยนต์มีเสียงดัง มีควันไอเสีย มีกลิ่นน้ำมันเครื่อง ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงต่ำลง น้ำมันเครื่องมีสีคล้ำหรือสกปรก สามารถนำรถยนต์เข้าศูนย์ตรวจสภาพหรืออู่ซ่อมรถยนต์ เพื่อให้ช่างตรวจสอบและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องก่อนกำหนดได้

ผลเสียของการไม่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง

  • เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ : ถ้าไม่มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง สิ่งสกปรกและอนุภาคอื่น ๆ จะสะสมอยู่บนพื้นผิวภายในเครื่องยนต์ เมื่อเวลาผ่านไปจะทำปฏิกิริยาทางเคมีและอาจก่อให้เกิดการกัดกร่อน ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
  • เครื่องยนต์ร้อน : น้ำมันเครื่องทุกประเภทจะมีกำหนดอายุการใช้งาน หากไม่มีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามกำหนด คุณสมบัติต่าง ๆ ของน้ำมันเครื่องจะลดลงหรือเสื่อมสภาพ ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไปและเกิดการสึกหรอเร็วขึ้น
  • เครื่องยนต์ถูกกัดกร่อน : เมื่อใช้งานเป็นเวลานาน น้ำมันเครื่องจะเสื่อมสภาพและกลายเป็นตะกอน โดยอนุภาคสิ่งสกปรกเหล่านี้เป็นอันตราย ซึ่งทำให้เกิดการกัดกร่อนและลดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์
  • สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง : การหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่ไม่ดี จะส่งผลให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น

การบำรุงรักษาเครื่องยนต์ด้วยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องอย่างสม่ำเสมอตามคู่มือการดูแลรักษารถยนต์ จะทำให้รถยนต์มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น รวมทั้งยังช่วยหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ต้องจ่ายค่าซ่อมแซมราคาแพง และช่วยเพิ่มมูลค่ารถยนต์ถ้าต้องการขายต่อ ฉะนั้นเพื่อให้รถยนต์ยังคงสมรรถนะดีสำหรับการใช้งาน จึงควรใส่ใจในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามคู่มือการดูแลรถอย่างเคร่งครัด

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้