ส่วนประกอบในระบบแอร์รถยนต์มีอะไรบ้าง พร้อมวิธีดูแลรักษา

แอร์รถยนต์ถือเป็นอีกระบบสำคัญอย่างมากโดยเฉพาะการขับขี่ในเมืองไทยที่มีสภาพอากาศร้อนจัดแทบตลอดปี ทาง Pit&Go ร้านซ่อมแอร์รถยนต์ จะพามาทำความรู้จักกับส่วนประกอบของระบบแอร์รถยนต์ หน้าที่การทำงาน ไปจนถึงวิธีดูแลรักษาเบื้องต้นจะช่วยยืดอายุการใช้งานให้เย็นฉ่ำสบายตัวขณะขับขี่หรือโดยสารได้ตลอด ไม่ต้องทนร้อน หรือเสียเงิน เสียเวลาในการซ่อมแอร์รถยนต์อีกด้วย

ส่วนประกอบและหน้าที่ของแอร์รถยนต์แต่ละชิ้น

1. คอมเพรสเซอร์ (Compressor)

หรือคอมแอร์ ติดตั้งบริเวณเครื่องยนต์ มีหน้าที่ดูดและอัดน้ำยาแอร์เพื่อสร้างระดับความดันให้สูงขึ้น น้ำยาแอร์หมุนเวียนเข้าสู่ระบบซึ่งต้องใช้แรงจากการทำงานของเครื่องยนต์ผ่านสายพาน

2. คอนเดนเซอร์ (Condenser)

มีหน้าที่ช่วยระบายความร้อนของน้ำยาแอร์ออกจากตัวคอมเพรสเซอร์ ซึ่งต้องใช้พัดลมระบายความร้อนหรือแรงลมที่ปะทะเข้ามาขณะรถกำลังวิ่ง

3. ดรายเออร์ หรือ ตัวกรองแห้ง (Receiver Drier)

ถูกติดตั้งระหว่างคอนเดนเซอร์กับตู้แอร์ ด้านบนมีตาแมวเพื่อบอกระดับน้ำยาแอร์ หรือบางรุ่นจะมีสวิตช์ความดันติดตั้งไว้ช่วยป้องกันความเสียหายของคอมเพรสเซอร์ หากระดับความดันผิดปกติชุดคลัตช์จะตัดการทำงานทันที มีหน้าที่ดูดความชื้น กรองสิ่งสกปรกในน้ำยาแอร์ และกักเก็บให้น้ำยาแอร์มีปริมาณเพียงพอกับการใช้งาน 

4. คอยล์เย็น (Evaporator) 

เป็นส่วนหนึ่งที่ติดตั้งอยู่ในตู้แอร์บริเวณแผงหลังหน้าปัดของห้องโดยสาร ทำหน้าที่เปลี่ยนอุณหภูมิร้อนให้เป็นเย็นเพื่อความสบายในการขับขี่

5. สารทำความเย็น (Refrigerant)

หรือที่มักเรียกกันว่า “น้ำยาแอร์” มีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับประเภทของรถที่ใช้งาน เสมือนเป็นตัวกลางในการสร้างความเย็นให้กับระบบคอยล์เย็น หากรู้สึกความเย็นลดลงอาจเป็นไปได้ว่าน้ำยาแอร์หมดและต้องเติมน้ำแอร์เพิ่มเข้าไป

6. วาล์วลดแรงดัน (Expansion Valve)

ส่วนประกอบที่อยู่ในตู้แอร์ด้านหลังหน้าปัดเช่นกัน มีหน้าที่ปรับระดับความดันของน้ำยาแอร์ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหลังทำการดูดความร้อนจากอากาศโดยรอบ

7. พัดลมแอร์ (Blower Fan)

อีกชิ้นส่วนที่อยู่ด้านในตู้แอร์ด้านหลังหน้าปัดหรือแผงคอนโซล จะช่วยดูดอากาศร้อนด้านในห้องโดยสารเพื่อระบายออกผ่านทางคอยล์เย็นแล้วเปลี่ยนเป็นลมเย็นออกมาแทนจากช่องลมแอร์

8. ตัวควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat)

หรือ เทอร์โมแอร์รถมีหน้าที่คล้ายสวิตช์คอยควบคุมระดับอุณหภูมิ หากคอมแอร์มีอุณหภูมิเหมาะสมก็จะตัดไฟเข้าเพื่อให้เกิดการทำงานตามที่ตั้งไว้ สามารถปรับค่าความเย็นได้ แต่จะเย็นขนาดไหนขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของแอร์ด้วย

เคล็ดลับการดูแลรักษาแอร์รถยนต์ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

• พยายามดูดฝุ่นหรือทำความสะอาดภายในห้องโดยสารรถบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้เข้าไปเกาะในระบบการทำงานของแอร์
• ก่อนดับเครื่องยนต์ควรทำการไล่น้ำออกจากตู้แอร์ทุกครั้งด้วยการปิดระบบ AC
• กรณีปิดแอร์หรือดับเครื่องยนต์แล้วไม่มีน้ำหยดลงมาใต้ท้องรถอาจเป็นไปได้ว่าท่อน้ำทิ้งเกิดการอุดตันต้องรีบทำความสะอาดทันที เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้ตู้แอร์มีการรั่วซึมได้
• หากรู้สึกว่าแอร์ไม่ค่อยเย็น หรือเย็นน้อยลง แนะนำควรรีบให้ช่างแอร์รถช่วยตรวจสอบทันที เพราะสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุตั้งแต่น้ำยาแอร์หมดไปจนถึงส่วนประกอบของแอร์เสื่อมสภาพจนระบบการทำงานผิดปกติ
• หาเวลาในการล้างแอร์ครั้งใหญ่บ้างอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ซึ่งการล้างแบบถอดจะช่วยให้แอร์สะอาดหมดจด แต่ต้องเลือกใช้บริการกับช่างที่ชำนาญเท่านั้น

เมื่อรู้จักกับส่วนประกอบต่าง ๆ ของระบบแอร์รถยนต์พร้อมวิธีดูแลรักษากันแล้วเชื่อว่าจะช่วยให้แอร์รถของคุณเย็นฉ่ำในทุกเส้นทาง เหนือสิ่งอื่นใดยังไม่ต้องซ่อมแอร์รถยนต์กันบ่อย ๆ อีกต่างหาก แต่ถ้าไม่รู้ว่าควรซ่อมแอร์รถยนต์ที่ไหนดีลองมาที่ Pit&Go ศูนย์บริการรถยนต์ ซ่อมแอร์รถยนต์ศรีนครินทร์ บริการซ่อมแอร์รถยนต์หลากหลายรุ่น เช่น BMW, TOYOTA, BENZ ให้บริการโดยช่างผู้เชียวชาญในระบบแอร์รถยนต์