149 จำนวนผู้เข้าชม |
ผู้ที่ใช้งานรถยนต์ต้องคุ้นเคยกับของเหลวอย่าง “น้ำมันเครื่อง” หรือ น้ำมันหล่อลื่นกันอยู่พอสมควรโดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องอย่างสม่ำเสมอเมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนด แต่ถ้าเจาะลึกลงไปแล้วยังอาจมีข้อสงสัยอยู่พอสมควรว่าน้ำมันเครื่องคืออะไร แล้วมีความสำคัญกับรถยนต์มากแค่ไหน ทำไมจึงต้องเปลี่ยนถ่ายอย่างถูกต้องตามเวลาที่กำหนด หากรู้ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณใช้งานรถยนต์ได้อย่างมั่นใจ พร้อมยืดอายุการใช้งานรถให้ยาวนานขึ้นกว่าเดิม
น้ำมันเครื่อง คือ สารหล่อลื่นชนิดของเหลวซึ่งประกอบด้วย 2 วัตถุดิบสำคัญ ได้แก่ น้ำมันพื้นฐาน และสารเพิ่มคุณภาพ ทำหน้าที่เสมือนเป็นตัวกลางระหว่างการทำงานของชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์ช่วยเคลือบชิ้นส่วนดังกล่าวเพื่อลดการเสียดสีกันขณะกำลังทำงาน ลดการสึกหรอของชิ้นส่วนช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดการเกิดความเสียหายเมื่อเครื่องยนต์มีการทำงานโดยเฉพาะช่วงการสตาร์ทรถ นอกจากนี้ยังช่วยระบายความร้อน ลดแรงเสียดทาน ลดการกัดกร่อน การเกิดสนิม การสะสมของสิ่งสกปรก ผงโลหะ ลดคราบเขม่าไม่ทำให้เกิดการอุดตันภายในเครื่องยนต์ ลดการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นทำให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ปกติแล้วน้ำมันเครื่อง หรือน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้กันในปัจจุบันจะแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ประกอบไปด้วย
ผลิตจากน้ำมันแร่ที่ผ่านการกลั่นจากน้ำมันปิโตรเลียมดิบ ราคาถูกที่สุด มีอายุการใช้งานราว 3,000-5,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 6 เดือน
จะมีการนำน้ำมันที่ได้จากการกลั่นมาผสมกับสารสังเคราะห์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น อายุการใช้งานราว 7,000-10,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 6-9 เดือน ราคาอยู่ในระดับปานกลาง คุณสมบัติจะสูงกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดา บางยี่ห้อในท้องตลาดอาจใช้คำว่า Synthetic เฉย ๆ แต่ระบุข้อมูลเป็นภาษาไทยเอาไว้
ถือเป็นน้ำมันหล่อลื่นเกรดสูงสุด บางคนเรียกน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% มีอัตราส่วนการผสมสารสังเคราะห์สูงสุด การเจือปนสิ่งแปลกปลอมน้อยสุด โมเลกุลเรียงตัวเป็นระเบียบและขนาดใกล้เคียงกันจึงให้ประสิทธิภาพสูงสุด อายุการงานราว 10,000-15,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 1 ปี มีราคาสูงสุด
ปกติแล้วการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องจะประเมินจากระยะเวลาหรือระยะทางที่ขับขี่อย่างใดอย่างหนึ่งเทียบกับประเภทของน้ำมันเครื่องที่ใช้ อย่างไรก็ตามเพื่อการจดจำที่ง่ายขึ้นผู้ขับขี่ส่วนใหญ่มักเปลี่ยนถ่ายกันเมื่อขับขี่ได้ประมาณ 6-8 เดือน หรือ 7,000-8,000 กิโลเมตร แต่ถ้าจะให้มั่นใจสามารถเช็กจากข้อมูลประเภทน้ำมันเครื่องที่ตนเองใช้ได้เลย
หากไม่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาหรือระยะทางที่เหมาะสมจะส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ในหลายด้านตั้งแต่เครื่องยนต์เสื่อมสภาพ ชิ้นส่วนภายในเกิดการสึกหรอเนื่องจากโลหะมีการเสียดสี รถกินน้ำมันมากขึ้น เกิดเสียงดัง เกิดควันดำ อัตราเร่งหนืด รถไม่ค่อยแรง ท้ายที่สุดอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายต้องเสียเงินซ่อมแซมครั้งใหญ่
รู้แบบนี้แล้วอย่าชะล่าใจกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเป็นอันขาด ควรทำตามระยะเวลาหรือระยะทางที่เหมาะสมเพื่อยืดอายุรถยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องเสียเงินซ่อมแพง ๆ อีกด้วย หากใครในใจเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตรวจเช็คระบบเครื่องยนต์ ซ่อมปั้มหัวฉีดดีเซล สามารถเข้ารับบริการได้ที่ Pit&Go ศูนย์บริการรถยนต์ นอกจากนี้ยังรับซ่อมแอร์รถยนต์ทุกรุ่น